วันพุธที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

วันอาทิตย์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ว่างๆก็เข้าไปดูนะ

http://www.yayee25.thcity.com/


เป็นเว็ปไซต์ที่สร้างเองโดยมีคุณครูพุทชาติ มั่นเมือง เป็นผู้สอนสร้างและให้คำแนะนำ ซึ่งเว็ปไซต์นี้เกี่ยวกับขนมไทย มีขนมไทยหลากหลายชนิดเลยนะ^^


วันพฤหัสบดีที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

hello!!วันแห่งความรัก


ทุก ปีเมื่อถึงเดือนกุมภาพันธ์ ดอกกุหลาบสีแดง การ์ดอวยพร ของขวัญ และช็อกโกแลต จะถูกส่งอวยพรถึงกันและกัน ระหว่างคนที่มีความรักต่อกัน ไม่ใช่เพียงแต่คนหนุ่มสาว แต่ยังรวมถึงคนในครอบครัว หรือมิตรสหาย เพราะในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งนับเอาวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ของทุกปีเป็น วันแห่งความรัก หรือ วันวาเลนไทน์


ข้อมูลจาก http://www.fourbears2002.com/

วันพุธที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

มาฟื้นฟูผิวไหม้แดดกัน

ผิวไหม้แดด


ผิวไหม้แดดเกิดจากการที่เราตากแดดเป็นเวลานานๆ จนทำให้เกิดอาหารไหม้แดดบนผิวของเรา (คนที่มีผิวขาวมากๆ จะยิ่งโดนแดดเผาได้เร็วกว่าคนที่มีผิวคล้ำ) แล้วถ้าผิวเราเกิดไหมขึ้นมา เราจะทำยังไงล่ะเนี่ย > <

Cool Down
ขั้นตอนแรกเราต้องทำการ Cool Down ผิวหนังและร่างกายของเราก่อน วิธีการ Cool Down ง่ายๆ คือการอาบน้ำเย็น หลังจากอาบน้ำเรียบร้อยแล้ว ให้สาวๆ ใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำเย็นแล้วมาประคบตามตัวโดยเน้นตรงบริเวณที่ไหม้แดด


Milk
สำหรับสาวๆ ที่ที่บ้านมีอ่างอาบน้ำ และไม่กลัวเปลืองสามารถเทนมจืดลงไปในอ่างอาบน้ำและนอนแช่ได้เลย แต่ถ้าสาวคนไหนที่กลัวเปลือง สามารถใช้ผ้าขนหนูชุบกับน้ำนมจนชุ่ม แล้วนำมาประคบที่ตัวได้เช่นกัน
Yogurt
นำโยเกิร์ตรสธรรมชาติแช่เย็นทิ้งไว้ซักพัก  แล้วนำมาทาตัวตรงบริเวณที่ไหม้ ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที แล้วค่อยล้างออกด้วยน้ำเย็น

Oatmeal
น้ำข้าวโอ๊ตบดละเอียดมาห่อในผ้าข้าวบางหรือผ้าเช็ดหน้าบางๆ ก็ได้ แล้วนำไปแช่ไว้ในน้ำเย็นจนเย็นได้ที่ หลังจากนั้นนำมาประคบตามผิวของเรา โดยสามารถทำซ้ำๆ กันได้ทุกๆ 4-6 ชั่วโมง

Aloe Vera
นำว่านหางจระเข้สดๆ (ที่เอายางออกแล้ว) มาทาๆ ถูๆ บริเวณแผลที่โดนแดดเผา อาการจะค่อยๆ ดีขึ้น

Tea Bags
ถ้าผิวหน้าของสาวๆ โดนแดดเผาล่ะก็ ถุงชาคือคำตอบที่ดีที่สุด โดยนำถุงชาที่ใช้แล้วไปแช่ในน้ำเย็น แล้วนำมาวางประคบบนใบหน้า อาการปวดแสบปวดร้อนจะค่อยๆ ลดลงไป

Coconut Oil

น้ำมันมะพร้าวเป็นอะไรที่สารพัดประโยชน์จริงๆ สาวๆ นำน้ำมันมะพร้าวมาชุบใส่สำลี แล้วนำมาทาบริเวณผิวไหม้ รอยไหม้จะค่อยๆ จางลง

จาก http://www.dek-d.com/content/nugirl/30464/

วันอาทิตย์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ตรุษจีน



เป็นวันหยุดตามประเพณีของจีนที่สำคัญที่สุด ในประเทศจีน ยังมีอีกชื่อหนึ่งว่า "เทศกาลฤดูใบไม้ผลิ" เพราะฤดูใบไม้ผลิตามปฏิทินจีนเริ่มต้นด้วยวันลีชุน ซึ่งเป็นวันแรกในทางสุริยคติของปีปฏิทินจีน วันดังกล่าวยังเป็นวันสิ้นสุดฤดูหนาว ซึ่งคล้ายกันกับงานเทศกาลของตะวันตก เทศกาลนี้เริ่มต้นในวันที่ 1 เดือน 1 ในปฏิทินจีนโบราณและสิ้นสุดลงในวันที่ 15 ด้วยเทศกาลโคมไฟ คืนก่อนตรุษจีนเป็นวันซึ่งครอบครัวจีนมารวมญาติเพื่อรับประทานอาหารเย็นเป็นประจำทุกปี ซึ่งเรียกว่า ฉูซี่ หรือ "การผลัดเปลี่ยนยามค่ำคืน" เนื่องจากปฏิทินจีนเป็นแบบสุริยจันทรคติ ตรุษจีนจึงมักเรียกว่า "วันขึ้นปีใหม่จันทรคติ"



จาก http://th.wikipedia.org/wiki/


วันพฤหัสบดีที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ขนมต่ายน้อยคัพเค้ก :3




สูตรขนมต่ายน้อยคัพเค้ก Little Rabbit Cupcake

ส่วนผสมสำหรับ: 10-12 ชิ้น กลาง
เวลา : 2 ชั่วโมง 30 นาที (นานเพราะต้องเข้าตู้เย็น 1 ชม. ไม่รวมเวลาอบ Cupcake)

อุปกรณ์
1. ที่นวดแป้ง
2.
แร๊ปห่ออาหาร
3.
ชามผสม
4.
ตะกร้อตีไข่ หรือพายยาง
5.
ตัวตัดขนาดต่างๆ
6.
ที่ปาดหน้าเค้ก
7.
ที่คน

ส่วนผสมต่ายน้อยคัพเค้ก
1. Double Chocolate Cupcake หรือคัพเค้กตามชอบ 1 สูตร
ทำท๊อปปิ้งไอซิ่ง Topping Icing
2.
ไอซิ่ง 300 กรัม
3.
นมผง 50 กรัม
4.
เนย 500 กรัม
5.
สีผสมอาหาร ตามชอบ
ทำชูก้าเพส Sugar Paste
6.
ไอซิ่ง 225 กรัม
7.
เจลาตินแผ่น 6 แผ่น
8.
กลูโคสไซรัป 6 กรัม
9.
น้ำต้มสุก (น้ำร้อน) 5 กรัม
10.
ผงโกโก้ ตามชอบ

วิธีทำต่ายน้อยคัพเค้ก
1. อบคัพเค้ก Double Chocolate Cupcake หรือคัพเค้กที่ชอบให้ได้ 10-12 ชิ้น
2.
พักบนตะแกรงให้เย็น
3.
เริ่มทำ sugar paste เริ่มจากแช่แผ่นเจลาตินในน้ำอุณหภูมิห้องจนนิ่ม
4.
ต้มน้ำให้ร้อน เทใส่ในแผ่นเจลาตินที่สะเด็ดน้ำขึ้นมาใส่ในชามผสม
5.
คนผสมจนละลายเข้ากันดี
6.
ใส่กลูโคสไซรัป และไอซิ่ง คลุกเคล้าให้เข้ากัน
7.
ห่อด้วยแร๊ปพลาสติก นำเข้าแช่เย็น 1 ชม.
8.
เมื่อครบ 1 ชม. นำมาคลึงปั้นขึ้นรูปตามต้องการ
9.
เริ่มทำท๊อปปิ้งไอซิ่ง
10.
นำเนยอุณหภูมิห้องเทใส่ชามผสม คนด้วยพายยางหรือตะกร้อตามถนัดจนไม่จับตัวเป็นก้อนแข็ง
11.
ใส่น้ำตาลไอซิ่งและนมผงผสมต่อจนเข้ากัน
12.
ผสมสีผสมอาหารตามชอบ
13.
นำมาแต่งหน้าคัพเค้กที่เย็นสนิทแล้ว




วันเสาร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

กิจกรรมประจำหน่วยที่ 2 เรื่อง หลักการและวิธีการแก้ปัญหาด้วยกระบวนการทางเทคโนโลยีสารสนเทศ


ข้อที่ 1 กระบวนการทางเทคโนโลยีสารสนเทศคืออะไร มีองค์ประกอบอะไรบ้าง
ตอบ กระบวนการจัดการกับข้อมูลข่าวสาร โดยนำข้อมูลดิบให้ผ่านกระบวนการต่างๆ จนเป็นสารสนเทศที่นำมาใช้ประโยชน์ได้ ประกอบด้วย การรวบรวมข้อมูล การตรวจสอบความถูกต้อง การประมวลผลและการเผยแพร่สารสนเทศ

ข้อที่ 2 จงให้คำนิยามของสิ่งต่อไปนี้ พร้อมทั้งแสดงให้เห็นว่าสิ่งเหล่านั้นมีความสัมพันธ์กันอย่างไร 1) ข้อมูล 2) สารสนเทศ 3) ความรู้
ตอบ 2.1.ข้อมูล หมายถึง ข่าวสาร เอกสาร ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับบุคคลเช่นคะแนนสอบ
        2.2.สารสนเทศ หมายถึง ข้อมูลต่างๆ ที่ได้ผ่านการประมวลผล
        2.3.ความรู้ หมายถึง สิ่งที่ทำให้คนเข้าใจ แล้วนำความเข้าใจนั้นมาปฏิบัติหรือประยุกต์ให้  เกิดประโยชน์
            ความสัมพันธ์ คือ เรามีข้อมูลแล้วนำข้อมูลมาผ่านการประมวลผลแล้วจะเป็นสารสนเทศ ในขณะนั้นเมื่อเราประมวลผลเกิดการคิดวิเคราะห์ เราก็จะได้ความรู้ไปใช้

ข้อที่ 3 จงยกตัวอย่างจากประสบการณ์ของนักเรียนเองว่า ความรู้ช่วยในการตัดสินใจได้อย่างไร
ตอบ การสอบ คือ เราใช้ความรู้ที่เรามีตัดสินใจว่า เราจะตอบข้อไหน

ข้อที่ 4 การเก็บรักษาข้อมูลและสารสนเทศมีวิธีการอย่างไร และเก็บไว้เพื่อประโยชน์อะไร
ตอบ    1. การเก็บรักษาข้อมูล การเก็บรักษาข้อมูล หมายถึง การนำข้อมูลมาบันทึกเก็บไว้ในสื่อบันทึกต่างๆ เช่น แผ่นบันทึกข้อมูล นอกจากนี้ยังรวมถึงการดูแล และทำสำเนาข้อมูลเพื่อให้ใช้งานต่อไปในอนาคตได้
 2. การทำสำเนาข้อมูล การทำสำเนาเพื่อเก็บรักษาข้อมูล หรือนำไปแจกจ่าย จึงควรคำนึงถึงความจุและความทนทานของสื่อบันทึกข้อมูล
 3. การสื่อสารและเผยแพร่ข้อมูล ข้อมูลต้องกระจายหรือส่งต่อไปยังผู้ใช้งานที่ห่างไกลได้ง่าย การสื่อสารข้อมูลจึงเป็นเรื่องสำคัญและมีบทบาทที่สำคัญยิ่งที่จะทำให้การส่งข่าวสารไปยังผู้ใช้ทำได้รวดเร็วและทันเวลา
4. การปรับปรุงข้อมูล ข้อมูลที่จัดเก็บไว้มีจุดประสงค์เพื่อการใช้งาน เช่น ในการตัดสินเพื่อดำเนินการ ดังนั้นข้อมูลจึงต้องมีการปรับปรุง ให้ทันสมัยอยู่ตลอดเวลา และจัดเก็บอย่างเป็นระบบเพื่อการค้นหาได้อย่างรวดเร็ว
            เก็บไว้เพื่อ ไม่ให้เกิดการสูญหายหรือชำรุดและมีการสำรองไว้

ข้อที่ 5 การเผยแพร่สารสนเทศมีวัตถุประสงค์อย่างไร และต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง
ตอบ    วัตถุประสงค์ คือ เพื่อให้เกิดประสิทธิผลและประสิทธิภาพในการเผยแพร่และต้องคำนึงถึง กลุ่มคนที่เราต้องการให้รับรู้และให้ได้ประโยชน์

ข้อที่ 6 จากประสบการณ์ที่ผ่านมา เมื่อนักเรียนพบปัญหา ตามปกตินักเรียนจะหาคำตอบให้แก้ปัญหานั้นด้วยวิธีใดบ้าง จงบอกมา 3 วิธี พร้อมทั้งบอกว่าแต่ละวิธีมีข้อดีข้อเสียอย่างไร
ตอบ    ปัญหา คือ เลิกเรียนก่อนเวลาจะโทรศัพท์ให้แม่มารับ พบว่าแบตเตอรี่ของโทรศัพท์หมด
            วิธีแก้ปัญหา คือ
            1.ยืมโทรศัพท์ของเพื่อน ข้อดี ไม่ได้จ่ายเงิน ข้อเสีย ต้องพึ่งพาคนอื่นและทำให้เงินในโทรศัพท์ของเพื่อนเหลือน้อย
            2.โทรศัพท์ตู้สาธารณะ ข้อดี แม่สามารถมารับได้ทันที ข้อเสีย ต้องจ่ายค่าโทรศัพท์
            3.นั่งรอแม่จนถึงเวลาเลิกเรียน ข้อดี ไม่ได้จ่ายเงินและไม่ได้ทำให้เพื่อนลำบาก  ข้อเสีย อาจจะนั่งรอแม่นานและอาจอยู่คนเดียว

ข้อที่ 7 ปัญหาง่ายๆในชีวิตประจำวัน จำเป็นต้องใช้วิธีการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบหรือไม่ เพราะเหตุใด
ตอบ เป็นระบบ เพราะ ถ้าเราทำอะไรอย่างมีระบบจะทำให้ง่ายแก่การแก้ปัญหา

ข้อที่ 8 การแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบมีขั้นตอนและวิธีการอย่างไร จงอธิบาย และมีประโยชน์อย่างไร
ตอบ    ขั้นตอนที่ 1 วิเคราะห์ปัญหาเพื่อหาประเด็นสำคัญของปัญหา
            ขั้นตอนที่ 2 หาแนวทางการแก้ปัญหา
            ขั้นตอนที่ 3 กำหนดรายละเอียดในการแก้ปัญหา
            ขั้นตอนที่ 4 พิจารณารายระเอียดว่าเหมาะสมหรือไม่
ขั้นตอนที่ 5 พิจารณามาตรการแก้ปัญหาว่าเพียงพอหรือไม่ ถ้าไม่เพียงพอให้กลับไปขั้นตอนที่ 1
ประโยชน์ คือ ช่วยให้แก้ปัญหาได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม

ข้อที่ 9 จงยกตัวอย่างการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยในการแก้ปัญหาที่นักเรียนได้พบเห็นมาโดยเล่าเรื่องราวพอสังเขปและวิจารณ์ว่าเป็นการแก้ปัญหาที่เหมาะสมหรือไม่ เพราะเหตุใด
ตอบ   ได้รับเงินมาจำนวนมากไม่ทราบว่าจะเก็บไว้ที่ไหน จึงนำไปฝากที่ตู้รับฝากเงินอัตโนมัติเป็นการแก้ปัญหาที่เหมาะสม เพราะ ตู้รับฝากเงินอัตโนมัติมีความปลอดภัยเหมาะสมแก่การฝากเงิน


เข้าค่ายลูกเสือม.2


โรงเรียนตากพิทยาคม ได้มีการจัดให้นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่2 ได้เข้าค่ายลูกเสือที่กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดน 34 หรือค่ายพระเจ้าตาก ในวันที่ 24-26 มกราคม 2556 เป็นเวลา 3 วัน 2 คืน เพื่อฝึกความมีวินัย ความสามัคคี ความอดทน และอีกมากมาย




ในวันแรกตอนเช้าเป็นวันที่ต้องเดินทางไกลโดยเดินจากโรงเรียนห้วยนึ่งไปที่ค่ายตชด.เป็นระยะทางประมาณ5กิโลเมตร ขณะเดินทาง อากาศร้อนมากๆ และเหนื่อยมาก และถึงค่ายในตอนเที่ยง เมื่อมาถึงที่ค่ายคุณครูได้พานักเรียนไปไหว้ศาลพระเจ้าตาก จากนั้นก็ให้นักเรียนไปเตรียมที่พักและประกอบอาหารให้เรียบร้อย จากนั้นคุณครูก็นำนักเรียนแยกไปทำกิจกรรมต่างๆตามฐาน แต่ละฐานก็จะฝึกให้นักเรียนอดทน และกล้าหาญ จากนั้นก็เข้านอน



ในวันที่2 คุณครูให้ตื่นตี 5 เพื่อมาออกกำลังกาย จากนั้นให้ประกอบอาหารและอาบน้ำแต่งตัว ต่อไปคุณครูก็แยกให้นักเรียนทำกิจกรรมตามฐาน แต่ละฐานมีความสนุกและความตื่นเต้นที่แตกต่างกันไปและฝึกความกล้าหาญ เช่น ปีนกำแพง เชือกคู่  ในตอนเย็นได้มีกิจกรรมรอบกองไฟ  ทำให้พวกเรามีความสุขและความสนุกมาก

ในวันสุดท้าย คุณครูให้ตื่นตี 5 เหมือนเดิมและออกกำลังกาย และได้ทำการปิดการเข้าค่ายลูกเสือและร้องเพลงและจับมือกับเพื่อนและคุณครู

ในการไปเข้าค่ายครั้งนี้หนูได้ฝึกให้มีความอดทนและกล้าหาญ หนูมีความสุขและสนุกมากๆคะและขอขอบคุณ คุณครูที่ค่ายตชด.ที่ได้ฝึกและให้ความรู้ และที่สำคัญขอขอบคุณ ผู้อำนวยการโรงเรียนตากพิทยาคมที่ได้จัดการเข้าลูกเสือให้แก่พวกเราคะ และอยากให้มีการจัดค่ายแบบนี้อีกต่อไปคะ